ผลกระทบของคุณภาพการเจียรไนเพชร
ต่อ ราคาเพชร เมื่อต้องการ ขายเพชร 

ผลกระทบของคุณภาพการเจียรไนเพชร (cutting) ต่อ ราคาเพชร เมื่อต้องการ ขายเพชร 

เมื่อเราต้องการที่จะ ขายเพชร ไม่ว่าจะเป็นเพชรบนเครื่องประดับ หรือเพชรร่วง (เพชรที่ไม่ได้ขึ้นตัวเรือน) เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจเรื่องคุณภาพการเจียรไนเพชร เนื่องจากคุณภาพการเจียรไนเพชรส่งผลกระทบกับความสวยงามของเพชร ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาในราคารับซื้อเพชรนั่นเอง ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับการเจียรไนเพชร และผลกระทบของการเจียรไนเพชรกับราคาขายเพชรกัน 

การเจียรไนเพชรคืออะไร (Diamond Cutting) 

การเจียรไนเพชร คือขั้นตอนในการเปลี่ยนเพชรดิบที่เพิ่งขุดขึ้นมาจากเหมืองให้อยู่ในรูปแบบของอัญมณีที่สวยงาม พร้อมให้เรานำมาสวมใส่เพื่อเพิ่มความมั่นใจ หรือแสดงสถานะของผู้สวมใส่ โดยต้องผ่านหลากหลายขั้นตอน เช่น  

  • การตัดเพชร  
  • การเกลาขึ้นทรงรูปร่างเพชรที่ต้องการ  
  • การขึ้นเหลี่ยมมุม และ 
  • การขัดเงา  

เพื่อให้ได้มาซึ่งเพชรที่มีประกาย มีความแวววาว และเล่นไฟได้ดีที่สุด โดยความความสามารถในการสะท้อนและหักเหแสงของเพชร จะส่งผลกระทบอย่างมากกับราคา ขายเพชร จึงจำเป็นต้องใช้ช่างเจียรไนที่มีประสบการณ์อย่างสูงในการเจียรไนเพชรแต่ละเม็ด 

ทำไมการเจียรไนเพชรถึงสำคัญกับราคา ขายเพชร 

ปกติการประเมินคุณภาพของเพชร จะใช้หลักการ 4C’s ในการประเมินคุณภาพเพชร โดย หลัก 4c’s จะประกอบด้วย  

  • Carat weight (น้ำหนัก)  
  • Cut (การเจียรไน)  
  • Color (สี)  
  • Clarity (ความสะอาด)  

อาจกล่าวได้ว่าการเจียรไน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการประเมินคุณภาพเพชรแต่ละเม็ด เพชรที่ผ่านการเจียรไนมาอย่างดีจะมีการเล่นไฟที่สวยงาม เตะตาซึ่งทำให้เป็นที่ต้องการและมีราคาที่สูงกว่า ในขณะที่เพชรที่เจียรไนไม่ดี จะมองแล้วดูหมอง ไม่เล่นไฟ ดูไม่สวยงาม ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการและส่งผลให้ราคาตกลง 

การตัดเกรดการเจียรไนเพชรตามหลักของ GIA   

โดยปกติแล้วเพชรที่เรานำมาทำเป็นเครื่องประดับ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ เพชรกลม (Round Brilliant Cut) และเพชรรูปทรงอื่นๆที่ไม่ใช่ทรงกลม (Fancy Cut) เช่น เพชรทรงหัวใจ (Heart Shape) เพชรทรงหยดน้ำ (Pear Shape) เพชรทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Princess Cut) เพชรทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Emerald Cut) เพชรทรงเม็ดข้าว (Marquise) เพชรทรงไข่ (Oval Shape) เป็นต้น แต่ในบทความนี้จะขอพูดถึง เพชรกลม ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด ซึ่งปัจจุบันเหลี่ยมการเจียรไนที่นิยมและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดคือ เหลี่ยมเกสร (Brilliant Cut) ซึ่งจะมีเหลี่ยมทั้งหมด 58 เหลี่ยม (นับรวมเหลี่ยมที่ก้นเพชร หรือ Culet ด้วย) 

ทางสถาบัน Gemological Institute of America (GIA) ได้สร้างมาตราฐานในการจัดคุณภาพการเจียรไนเพชรขึ้นมา เพื่อใช้วัดคุณภาพการสะท้อนแสงและการหักเหแสงของเพชรซึ่งเป็นผลมาจากการเจียรไน โดยคุณสมบัติที่ต้องการประกอบด้วย 

  1. ประกาย (Brilliance) คือความสว่างจากแสงขาวที่สะท้อนออกมาจากตัวเพชร
  2. ไฟ (Fire) คือการกระเจิงของแสง ซึ่งเราจะเห็นเป็นสีรุ้ง 
  3. แวววาว (Scintillation) คือความมืด-สว่างสลับกัน ที่เราจะเห็นเวลาขยับเพชรไปมา 

โดยคุณสมบัติดังกล่าว จะเกิดจากสัดส่วนของเพชรภายหลังการเจียรไน และสัดส่วนของเพชรนี่เองที่จะนำมาใช้วัดเพื่อกำหนดเกรดการเจียรไนนั่นเอง โดยการวัดสัดส่วนการเจียรไนของเพชร จะถูกจัดออกเป็น 5 เกรด ได้แก่ Excellent, Very Good, Good, Fair และ Poor นั่นเอง โดยเพชรที่มีการเจียรไนเกรด Excellent จะมีราคาขายที่สูงที่สุด เช่นเดียวกับราคารับซื้อนั่นเอง เราจะกล่าวถึงเรื่องสัดส่วนการเจียรไนเพชรและผลกระทบกับประกายความงามของเพชรในบทถัดไป 

การซื้อและขายเพชร 

เมื่อคุณต้องการซื้อเพชรสวยๆ ซักเม็ด สิ่งที่คุณต้องทำการพิจารณาเบื้องต้นก็คือคุณภาพการเจียรไนของเพชรเม็ดนั้นเป็นอย่างไรบ้าง โดยสิ่งที่ทำได้อันดับแรกเลย คือถามผู้ขายว่าเพชรมีใบเซอร์หรือไม่ เพื่อดูเกรดการเจียรไนในใบเซอร์นั้น ถ้ามีใบเซอร์และผลเป็น Excellent หรือ Very Good ก็ถือว่าการเจียรไนมีคุณภาพค่อนข้างดีและไว้ใจได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าหากเพชรไม่มีใบเซอร์ สิ่งที่เราอาจจะทำได้ก็คือ ดูการเล่นไฟ ดูประกาย และความแวววาว ตามที่กล่าวไปข้างต้น หากมีการเล่นไฟดี ประกายวิ๊บวับ และมีความแวววาว ถูกใจ ก็ถือว่าผ่านการทดสอบของคุณแล้ว  

ในทางกลับกัน หากคุณต้องการที่จะขายเพชรของคุณ หากเป็นเพชรที่มีใบเซอร์ ก็อาจจะง่ายหน่อย เพียงแค่นำใบเซอร์ที่มีเกรดการเจียรไน (ยิ่งถ้าเป็นใบเซอร์ที่แสดงสัดส่วนของเพชรยิ่งดี) ไปให้กับร้านที่คุณต้องการขาย ทางร้านก็จะสามารถตีราคาเพชรให้คุณได้เลย แต่ถ้าเป็นเพชรที่ไม่มีใบเซอร์ หรือใบเซอร์ไม่มีการจัดเกรดการเจียรไน ทางร้านก็จะนำไปทำการประเมินโดยวิธีการของทางร้าน โดยถ้าเป็นที่ มีทรัพย์สิน ทางเราจะใช้นักอัญมณีศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องอัญมณี ทำการวัดสัดส่วน ของเพชรและประเมินออกมาเป็นคุณภาพของการเจียรไน และใช้ประกอบกับคุณภาพอื่นของเพชรเพื่อประเมินราคาต่อไป แต่หากท่านยังมีความกังวลว่าผู้รับซื้อเพชร จะประเมินมั่วหรือไม่ได้มาตราฐานหรือเปล่า ทางเราแนะนำให้ท่านนำเพชรของท่าน ส่งไปออกใบเซอร์กับทางแลปที่ได้มาตราฐาน เพื่อให้ทราบคุณภาพการเจียรไนก่อนตัดสินใจขายต่อไป 

บทสรุป 

คุณภาพการเจียรไนเป็นปัจจัยที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการเรียกซื้อ หรือขายเพชร การเจียรไนจะส่งผลกระทบกับความสวยงาม การเล่นไฟ และประกายของเพชรเป็นอย่างมาก ซึ่งความสวยงามของเพชรย่อมส่งผลถึงราคาของเพชรเม็ดนั้นๆด้วย เพชรที่สวยงาม เล่นไฟดี ย่อมมีราคามากกว่า เพชรที่ดูหม่นๆ ไม่เล่นไฟ ไม่สวยงาม ดังนั้นก่อนที่จะซื้อหรือขายเพชร ท่านควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเจียรไนเพชรเบื้องต้นเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง หรือหากจำเป็นอาจทำการปรึกษานักอัญมณีศาสตร์หรือใช้บริการสถาบันตรวจสอบประเมินคุณภาพเพชรก่อนขาย และหากต้องการขายเพชรอย่างมั่นใจและสบายใจว่าจะไม่ถูกหลอก สามารถใช้บริการได้ที่ มีทรัพย์สิน ศูนย์รับซื้อขายเพชร เครื่องประดับ มีมาตราฐาน ไม่มั่ว รับรองความสบายใจของท่าน 

Image hover effect image

Image hover effect image

555 ซอย โชคชัยจงจำเริญ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120

Image hover effect image

Image hover effect image

555 ซอย โชคชัยจงจำเริญ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า